Monday, September 14, 2015


ความเข้าใจของฉันต่อโลกาภิวัตน์   เรียบเรียงโดย ตุ้ย บุญศักดิ์ ทองดี

มไม่เคยให้ความสนใจอย่างจริงจังต่อคำว่า โลกาภิวัตน์ หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Globalization จนกระทั่งวันหนึ่ง อาจารย์ผู้สอนเรื่อง Globalization ตามหลักสูตรของ M.Min ที่สถาบันพระคริสตธรรมพะเยาได้ให้เขียนเรียงความเรื่อง ความเข้าใจของฉันต่อโลกาภิวัตน์

ที่ผมไม่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ หรือคำนี้ อาจจะเนื่องมาจาก นิสัยส่วนตัวที่ หนึ่งคือไม่อยากตามกระแสใหม่ๆที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้คือเป็นการเปิดประเด็นไว้และให้คนมาแลกเปลี่ยน โต้แย้ง เห็นด้วยหรือขัดแย้ง สองคืออาจจะเป็นเพราะผมมักจะมองและให้น้ำหนักจากล่างสู่บน หรือจากกำลังภายในสู่การระเบิดออกมาสู่ภายนอก สามอาจจะเป็นเพราะผมไม่ชอบทำอะไรตามกระแส และอาจจะทำอะไรทวนกระแสด้วยซ้ำ

ย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อได้โจทก์มาอย่างนี้แล้ว และต้องเรียบเรียงออกมา ดังนั้นจะไม่อ่าน ไม่สนใจก็คงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะตราบใดที่ไม่เข้าใจในเรื่องที่จะเขียนมันก็จะเขียนออกมาไม่ได้ ใช่ไหมครับ ผมจึงใช้วิธีสอบถามท่านอาจารย์ Goo กูเกิ้ล และสิ่งที่พบน่าสนใจทีเดียว ซึ่งผมจะนำมาสรุปให้ท่านผู้อ่านคร่าวๆละกัน และจะจบลงด้วยความเข้าใจและความเห็นส่วนบุคคลของผมต่อเรื่อง โลกาภิวัตน์นี้สักนิดหนึ่งครับ โดยผมจะขออนุญาตจัดโครงเรื่องสักหน่อยเพื่อความสะดวกของท่านผู้อ่านนะครับ

1.        นิยาม ของคำว่า โลกาภิวัตน์ หรือ Globalization มีผู้ให้ความหมายไว้ดังต่อไปนี้

-            กระบวนการหรือกลุ่มของกระบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เป็นความสัมพันธ์ทางสังคม อันมีเหตุมาจาก การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีการสื่อสาร การขนส่ง เกิดสภาพโลกไร้พรมแดน ทำให้ส่วนต่างๆของโลกมีความใกล้ชิดมากขึ้น สามารถเพิ่มการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล  มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เกิดความเป็นมิตรระหว่างพลเมืองโลก

-            โลกาภิวัตน์ คือความแปลกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก เพราะมันทำให้โลกกลายเป็น สถานที่เดียวกันอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน มนุษย์กำลังก้าวเข้าสู่ ยุคโลกานิยม” (“global age”) ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุดของรัฐชาติและการเกิดขึ้นของระเบียบโลกยุคใหม่

-            โลกาภิวัตน์ คือ ความเป็นโลกเดียวกัน (เป็นการย่อโลกให้เล็กลงโดยการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว) มีความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในปัจจุบันความเป็นโลกเดียวกันของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเงินเสรี ทำให้ทั้งโลกเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อการค้าเสรีและการเงินเสรี ส่งผลให้ประชากรในโลกพัฒนาไปสู่การมีอารยะธรรมเดียวกันทั้งโลก

 

2.      ลักษณะสำคัญของโลกาภิวัตน์ อาจจะลองสรุปไว้ดังต่อไปนี้ (โปรดดูรูปภาพประกอบเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น)


จากภาพประกอบข้างต้น หากเราพูดเรื่องโลกาภิวัตน์ มักจะมีหัวข้อเหล่านี้เข้ามาเป็นตัวกำหนดเนื้อหาการสนทนาของเรา ตัวอย่างเช่น เราจะพูดถึงโลกาภิวัตน์ในลักษณะของ โลกไร้พรหมแดน ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องการลดความสำคัญของเขตแดนประเทศ นักนิยมโลกาภิวัตน์บางคนถึงขั้นที่บัญญัติคำศัพท์ขึ้นมาให้เลยทีเดียว ท่านผู้อ่านเคยได้อ่านได้ยินคำว่า พลเมืองโลก แทนคำว่าประชากรของประเทศนี้หรือประเทศนั้นแทน บางครั้งเราจะพูดคุยกันถึงเรื่อง ความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร ในอดีตเราอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีในการพูดคุยกัน แต่ปัจจุบันนี้คนสองคนอยู่กันคนละซีกโลกพูดคุยกันเหมือนกับนั่งอยู่ติดกัน และที่น่าสนใจที่สุดคือ กระบวนการที่เกิดขึ้นพร้อมกันในหลายๆด้านและเชื่อมโยงกันในลักษณะองค์รวมเช่น เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สิทธิ สิ่งแวดล้อม จริยธรรม การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นในเรื่องต่างๆเหล่านี้และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

 

3.        ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์  สำหรับหัวข้อนี้ ผมจะยังไม่เสนอความเห็นนะครับ เป็นเพียงการนำสิ่งที่คนอื่นๆได้ให้ความคิดเห็นเอาไว้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ (ขอช่วยดูภาพประกอบอีกครั้ง)


ภาพข้างต้นมาจาก http://www.globalisierung-infos.de/ นี้ (ต้องให้เครดิตเขาหน่อย เดี๋ยวโดนฟ้อง) แสดงให้เห็นว่า มีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบด้วย ถ้าดูภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ ลองดูที่ผมสรุปเป็นภาษาไทยนี้ก็ได้ ไม่มีลิขสิทธิ์ใดๆ แต่ผมจะขอไม่อธิบายในรายละเอียดเนื่องจากเนื้อที่ไม่พอ


4.        วามเข้าใจ และความเห็นส่วนบุคคล  

ากข้อมูลเบื้องต้น ผมรู้สึกชอบแนวคิดแบบโลกาภิวัตน์นะครับ เพราะไม่ได้มองแยกส่วนจนเกินไป อย่างน้อยเห็นว่า โลกใบนี้มันมีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกันอยู่ เราควรจะห่วงใยส่วนอื่นๆในโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน คือไม่ใช่เรื่องของบ้านฉัน เรื่องของบ้านเธอ แต่เป็นเรื่องบ้าน(โลก)ของเรา แต่แน่นอนว่า หากเป็นได้อย่างนั้นจริง จะมีผู้มีอำนาจ(ล้นฟ้า)สักกี่คนที่จะยอมให้คนอื่นมายุ่มย่ามในบ้านของตนเอง แต่ก็มีที่ไม่ค่อยเห็นด้วยนะถ้ามองที่ผลกระทบบางตัว เช่นการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้เกิดช่องว่างที่มากขึ้นระหว่างผู้แพ้กับผู้ชนะ และอาจจะมีบางกลุ่มที่ยังไม่พร้อมจะแข่งขันในเกมใหม่ๆของโลกใบนี้

ย่างไรก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีมากกว่าหนึ่งด้าน อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าเราจะมองให้รอบด้านได้ดีกว่าและนำข้อมูลเหล่านั้นไปก่อให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน ....ขอเป็นกำลังใจให้กับคนในยุคโลกาภิวัตน์ทุกคนนะครับ

 

เอกสารอ้างอิง

พิชัย วาศนาส่ง. (2549). โลกาภิวัตน์: หมุนตามโลก สารพันสาระที่ควรรู้ เพื่อทันกระแสโลก.กรุงเทพฯ:  ปาเจรา.

Scholte, J. A. (2005). Globalization: A Critical Introduction (2nd ed.). New York: Palgrave Macmllan.

3 comments:

  1. ลองอ่านดูนะครับ และ comment มาหน่อยนะครับ

    ReplyDelete
  2. เยี่ยมเลยค่ะ เราต้องเป็นกระบอกเสียงเพื่อผู้คนจะได้มาสนใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นให้มากขึ้นต่อไป

    ReplyDelete
  3. จริงๆ แล้วก็มีสิ่งที่ดีๆ เยอะ แต่ก็อันตรายเหมือนกันเพราะอาจเป็นตัวนำมนุษย์สู่ยุคสุดท้ายก็เป็นได้

    ReplyDelete